สมุนไพรคัดเค้า
สมุนไพรคัดเค้า
มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า จีเก๊าจีเค้าโยทะกา หนามลิดเค้า (เชียงใหม่), จีเค๊] พญาเท้าเอว (กาญจนบุรี), คัดเค้าหนาม(ชัยภูมิ), คัดเค้าเครือ (นครราชสีมา), เค็ดเค้า (ภาคเหนือ), คัดเค้า คันเค่า(ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), คัดเค้า คัดค้าว (ภาคกลาง), เขี้ยวกระจับ (ภาคใต้, ภาคตะวันตกเฉียงใต้), จี้เค้า, หนามเล็บแมว เป็นต้น
ลักษณะของต้นคัดเค้า
ต้นคัดเค้า เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยจัดเป็นพรรณไม้เถาเนื้อเหนียวแข็งหรือไม้พุ่มรอเลื้อย มีความสูงประมาณ 3-6 เมตร เปลือกลำต้นเรียบและเป็นสีน้ำตาล ลักษณะของลำต้นคดและยาว มักขึ้นพาดพันเลื้อยไปตามต้นไม้และกิ่งไม้ หากไม่มีที่เลื้อยพันก็จะเป็นไม้กึ่งเลื้อยกึ่งยืนต้นคล้ายกับนมแมว ตามลำต้นมีข้อ ซึ่งจะมีใบงอกออกเป็นคู่ ๆ และจะมีหนามแหลมโค้งงองุ้มออกจากโคนใบมีลักษณะคล้ายกับเขาควายข้อละหนึ่งคู่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไม้ชนิดนี้ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ปักชำ และการตอนกิ่ง แต่จะนิยมขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เพราะงอกได้ง่าย และต้นกล้าที่ได้จากการการเพาะเมล็ดจะมีความแข็งแรงและเจริญเติบโตได้เร็ว ต้องการน้ำไม่มากนักในการเจริญเติบโต สามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในที่มีแสงแดดจัดแบบเต็มวันและแสงแดดปานกลาง และมักขึ้นทั่วไปตามธรรมชาติในป่าเบญจพรรณตามภาคต่าง ๆ หรือตามสวน หรือตามที่รกร้างว่างเปล่า หรือมักปลูกกันไว้ตามบ้านหรือตามวัดเพื่อใช้ทำเป็นยาบ้างก็มี


- ใบคัดเค้า ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรี (ลักษณะเรียวยาวคล้ายกับใบมะม่วง) ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-12 เซนติเมตร หลังใบเรียบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน ท้องใบเรียบลื่นและมีสีอ่อนกว่า เนื้อใบเหนียวหนาแข็ง และมีหูใบขนาดเล็กลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ระหว่างก้านใบ

- ดอกคัดเค้า ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกเป็นช่อใหญ่ แต่ละช่อดอกจะมีขนาดตั้งแต่ 4-10 เซนติเมตร ในแต่ละช่อจะมีดอกย่อยประมาณ 10-25 ดอก ดอกย่อยมีขนาดเล็กสีขาวและมีกลิ่นหอม ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ลักษณะคล้ายดอกเข็ม มีกลีบดอก 5 กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่กลีบดอกจะบิด ที่โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น แต่ละดอกจะมีเกสรเพศผู้ 5 ก้านยื่นยาวพ้นกลีบดอก ส่วนเกสรเพศเมียเป็นรูปกระสวยสีขาวหรือเป็นรูปแถบเส้นอยู่ระหว่างกลีบดอก 6 แถบ กลีบเลี้ยงดอกเป็นสีขาวอมสีเขียว โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นแฉกแหลม ดอกจะบานพร้อมกันทั้งช่อ เมื่อดอกที่เริ่มบานจะเป็นสีขาวนวลแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวลในวันต่อมา ดอกจะส่งกลิ่นหอมแรงมากในช่วงเย็นถึงช่วงกลางคืน โดยจะออกดอกในช่วงปลายฤดูฝนจนถึงช่วงฤดูหนาว และบางข้อมูลก็ระบุว่าจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม) บ้างก็ว่าจะออกดอกในช่วงฤดูร้อน (เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม)


- ผลคัดเค้า ออกผลเป็นพวงหรือออกเป็นกลุ่ม ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรี ผิวผลเรียบและเป็นมัน ผลมีขนาดเท่าเมล็ดพุทรากลม ๆ โดยจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของผลประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ปลายผลแหลม ผลเป็นสีเขียวเข้ม เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กอัดแน่นกันเป็นจำนวนมาก เมล็ดขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ โดยจะติดผลในช่วงเดือนเมษายน

สรรพคุณของคัดเค้า
- ผลมีรสเฝื่อนปร่า ช่วยบำรุงโลหิต (ผล, รากและผล, ต้น, เปลือกต้น, ทั้งต้น)
- ผลใช้ปรุงเป็นยาต้มกินเป็นยาฟอกโลหิต (ผล)
- ช่วยแก้โลหิต (เถา, ทั้งต้น)
- รากมีรสฝาดเย็น ใช้เป็นยาขับโลหิต (ราก)
- ใบมีรสเฝื่อนเมา ช่วยแก้โลหิตซ่าน (ใบ, เปลือกต้น)
- ดอกคัดเค้าช่วยแก้โลหิตในกองกำเดา (ดอก)
- รากมีรสเย็นและฝาดเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยารักษาไข้เพื่อโลหิต (ราก)
- รากใช้เป็นยารักษาโรครัตตะปิดตะโรค (โรคเกี่ยวกับโลหิตชนิดหนึ่ง) (ราก)
- เปลือกต้นมีรสฝาด ช่วยปิดธาตุ (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้เลือดออกตามทวารทั้งเก้า (เปลือกต้น)
- รากหรือแก่นใช้ฝนกับน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ หรือจะใช้ใบนำมาแช่กับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ก็ได้เช่นกัน (ใบ, ราก, เถา, แก่น, ทั้งต้น)ช่วยแก้พิษไข้กาฬ (หนาม)
- หนามใช้เป็นยาลดไข้ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย (หนาม)ช่วยแก้อาการไอ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
- รากนำมาต้มกินเป็นยารักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ราก, ดอก)
- ทั้งต้นมีรสฝาดเฝื่อน ช่วยแก้เสมหะ (ราก, เปลือกต้น, เถา, ทั้งต้น)
- รากช่วยขับลม (ราก)
- รากใช้ต้มกินเป็นยาแก้อาการท้องเสีย (ราก, ผล)
- ผลใช้เป็นยาขับระดู ขับโลหิตประจำเดือนเสียของสตรี โดยใช้ผลประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว ใช้รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ส่วนรากก็มีสรรพคุณขับระดูเช่นกัน (ราก, ผล)
- ผลใช้ปรุงเป็นยาต้มกินเป็นยาขับฟอกโลหิตระดูที่เน่าร้ายของสตรี รักษาโลหิตอันเน่าให้ตกเสีย และรักษาโลหิตร้อนให้บริบูรณ์ (ผล), รากและผล) ส่วนต้นช่วยแก้โลหิตระดูร้อนให้บริบูรณ์ (ต้น)
- ช่วยรีดมดลูก (เปลือกต้น)
- รากใช้ฝนกับน้ำซาวข้าวช่วยรักษาฝีและรักษาแผลทั่วไป โดยเฉพาะแผลสุนัขกัด หมอยาพื้นบ้านกล่าวว่า การใช้รากคัดเค้าฝนกับเขี้ยวเสือจะช่วยรักษาแผลที่ถูกสุนัขกัด ทำให้แผลหาย และยังมีความเชื่อด้วยว่าจะทำให้สุนัขตัวที่กัดถึงแก่ความตาย (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) (ราก)
- ยอดคัดเค้านำมาขยี้หรือตำใช้พอกรักษาฝี จะทำให้ฝีหายเร็วขึ้น (ยอด) และนอกจากจะใช้เป็นยาภายนอกแล้ว ยังมีการใช้คัดเค้าทั้งห้าส่วนนำมาต้มเป็นยารับประทานเพื่อใช้รักษาฝีทั้งภายนอกและภายในอีกด้วย (ทั้งต้น)
- หนามช่วยแก้พิษฝีต่าง ๆ แก้ฝีประคำร้อย (มีข้อมูลระบุว่าใช้หนามนำมาฝนรักษาฝีเช่นเดียวกับการใช้ราก) (หนาม)
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผ่องใส (ผล)
ประโยชน์ของคัดเค้า
- ยอดอ่อนสามารถนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารรับประทานได้ เช่น ยำใส่มะพร้าวคั่ว หรือใช้รับประทานแกล้มกับลาบ
- ผลอ่อนหรือผลแก่ใช้รับประทานเป็นผักเหนาะหรือผักสดร่วมกับน้ำพริกได้ ด้วยการนำมารับประทานสดหรือนำไปลวกให้สุกก่อนนำมารับประทาน
- ต้นคัดเค้าเป็นพันธุ์ที่มีหนามแหลมคมมาก จึงนิยมใช้ปลูกเป็นแถว ๆ เป็นไม้เลื้อยตามซุ้มหรือตามรั้วเพื่อทำเป็นรั้วป้องกันคนหรือสัตว์ผ่านได้ดี
- ต้นคัดเค้าสามารถใช้ปลูกเป็นไม้ประดับได้ เพราะเวลาออกดอกจะดูสวยงามมาก อีกทั้งดอกยังมีกลิ่นหอมแรงและออกดอกพร้อมกันเกือบทั้งต้น แต่การปลูกต้นคัดเค้าให้สวยงามจะต้อยคอยตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เสมอ เนื่องจากไม้ชนิดนี้จะแตกกิ่งก้านสาขามากและมีรูปทรงไม่แน่นอนนัก
- ผลคัดเค้ามีสารจำพวกไตรเทอร์ปีนซาโปนินที่มีฤทธิ์เป็นยาเบื่อปลา
ที่มา https://medthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น